วันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2556

สัปดาห์ที่ 11

วันพุธ ที่ 21 สิงหาคม 2556

          วันนี้ไม่มีการเรียนการสอน แต่อาจารย์ให้นักศึกษารับผิดชอบงานของตนเองดังนี้
          1.  การทดลองว่าวใบไม้พร้อมโพสลงบล็อก
          2.  ทดลองการทดลอง 3 อย่าง คือ การทดลอง ของเล่น และของเข้ามุม


ว่าวใบไม้แห้ง


จัดทำโดย นางสาวสมฤดี  โพธิกะ

ว่าวใบไม้แห้ง
อุปกรณ์
          1. ใบไม้แห้ง (อาจารย์ได้ให้นักศึกษาเก็บใบไม้สดแล้วแนบไว้ในหนังสือเรียน แต่ของดิฉันใบไม้เล็กเลยเก็บใบไม้สดมาทำใหม่และใบไม้แห้งในเวลา 1 สัปดาห์)
          2. เข็มและด้ายเย็บผ้าสีตามใจชอบ
          3. ไม้ไผ่ หรือ ตะเกียบที่ไม่ใช้แล้ว
          4. เศษกระดาษหนังสือพิมพ์เพื่อทำห่างว่าว
          5. กาวร้อนหรือกาวตาช้าง

วิธีการทำ
          1. นำใบไม้แห้งมาประกบคู่กันให้เหมือนปีกผีเสื้อแล้วใช้เข็มใส่ด้ายเย็บให้ติดกันโดยดูว่าแน่นพอแล้ว (เคล็ดไม่ลับขณะทำคนทำต้องมือเบาเนื่องจากเป็นใบไม้แห้งอาจแตกหรือฉีกขาดได้)
          2. จากข้อ 1 นำตะเกียบชิ้นเล้กมาทำเป็นเครื่องหมายบวก + ด้านในของใบไม้แล้วใช้กาวร้อนติดให้แน่น (เคล็ดไม่ลับกาวร้อนหรือกาวตาช้างจะติดกับใบไม้ได้แค่ไม่นานถ้าติดแล้วต้องทดลองเลยจะได้มั่นใจว่ายังไงใบไม้ก็คงไม่ปลิ้วหายไปกับลมแรงแน่ๆ)
         3. จากข้อ 2 ใช้ด้ายเย็บผ้าที่มีขนาดยาวพอควรมาผูกตรงกลางเครื่องหมายบวกและเชื่อมมาผูกต้องแกนล่างเครื่องหมายบวก
         4. นำด้ายเย็บผ้ายาวแล้วแต่ (ทำเป็นเชือกวิ่งว่าว) ผูกตรงกลางระหว่างเชื่อกเส้นแรกในข้อ 3 ให้แน่น
         5. นำกระดาษหนังสือพิมพ์มาตัดเป็นห่างความยาวกับความกว้างแล้วแต่จะกำหนดเอง นำมาแปะที่ไม้แกนกลางของเครื่องหมายบวก
        6. เป็นอันเสร็จสิ้นว่าวนี้พร้อมล่องกับลมแล้ว (สังเกตว่ามีลมแรงหรือไม่ถ้าแรงค่อยวิ่งเพราะเวลาว่าวขึ้นสูงจะสวยงามมาก)

สิ่งที่ได้จากการทำว่าวไบไม้
        1. การปราณีตในผลงาน เนื่องจากเป็นไบไม้แห้งมือขณะทำทุกขึ้นตอนต้องเบาจับแรงก็ไม่ได้เดียวใบไม้จะแตกและฉีกขาด
        2. ความอดทน อดทนขณะทำว่าวทุกขึ้นตอนเพราะทุกอย่างต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปใจร้อนไม่ได้เดียวผลงานจะออกมาไม่สวย
        3. ทักษะด้านสังคม เนื่องจากดิฉันได้ไปทดลองที่บ้านเกิด (ร้อยเอ็ด) ก็จะมีคุณตาของฉันและผู้ใหญ่ที่เห็นแนะนำมาถ้าว่าวมันหมุนให้เอาห่างใส่อีกให้ยาวๆ เลย และให้วิ่งทวนกับลมว่าวจะได้ขึ้นสูง
          

สัปดาห์ที่ 10

วันพุธ ที่ 14 สิงหาคม 2556


กิจกรรมในห้องเรียน

          วันนี้อาจารย์ชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับการไปศึกษาดูงาน วันที่ 27-28 สิงหาคม 2556 ณ สาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมาและโรงเรียนลำปายมาศพัฒนาบุรีรัมย์ ซึ่งอาจารย์และนักศึกษาร่วมกันวางแผนนำเสนอเป็น Mindmapping ดังนี้

รูปภาพ : การไปศึกษาดุงาน 2 สถานที่ดังกล่าว

          อาจารย์ได้ตรวจบล็อกนักศึกษาทุกคนที่ได้ลิงค์กับอาจารย์ไว้แล้ว ซึ่งของดิฉันอาจารย์ชี้แจงดังนี้
          คำชม คือ การทำงานสรุปเป็น Mindmapping ได้ดีและการตกแต่งใช้ได้
          ตำหนิ คือ คำอธิบายบล็อกไม่มี (แต่ดิฉันได้ใส่ไว้บนหัวข้อสกอบาร์ด้านบน)
          คำแนะนำ คือ คำอธิบายบล็อกไม่เป็นจุดเด่นตรงเอาลงมาไว้ตรงข้างล่างชื่อบล็อกจะทำให้ดูได้อย่างชัดเจนว่าบล็อกจัดทำขึ้นเพื่อจุดประสงค์อะไร

องค์ความรู้ที่ได้ในวันนี้

          การะบวนการทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัย
                1. การตั้งสมมุติฐาน การคาดการณ์ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
                2. การทดลอง  ดำเนินตามขั้นตอน
                3.  สังเกต  ให้เด็กได้สังเกตสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมก่อนทดลอง
                4. แบบบันทึก จะให้เครื่องภาษาและคณิตศาสตร์ในกรบันทึก จะทำให้เข้าใจง่ายในสิ่งที่เปลี่ยน

งานที่สั่งอาทิตย์นี้

         1.  แก้ไขบล็อกตามที่ได้แนะนำไป
         2.  ให้นักศึกษาทดลองการทดลอง 3 อย่าง คือ การทดลอง ของเล่น และของเข้ามุมแล้วโพสลงบล็อกให้เรียบร้อย
         3.  ให้นักศึกษานำใบไม้แห้งที่ให้เก็บไว้มาทำเป็นว่าวใบไม้แห้ง ได้ผลหรือไม่ให้โพสลงบล็อกถึงเวลาเรียนแล้วเราจะหาข้อเท็จจริงร่วมกัน

        

วันอังคารที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2556

วันอังคาร ที่ 13 สิงหาคม 2556

          
          ได้เข้าร่วมการสัมมนา ณ ห้องประชุมจันทร์ประภัสสร์ ชั้น 5 อาคารสำนักงานอธิการบดี 
มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม เวลา 13.00-16.45 น. บรรยายโดย คุณมีชัย วีระไวทยะ


รูปภาพ : ข้อน่าคิดกับคุณมีชัย วีระไวทยะ


คลิกภาพบรรยาการในงานการสัมมนา


วันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2556

สัปดาห์ 9

วันพุธ ที่ 7 สิงหาคม 2556


         วันนี้ทางสาขาการศึกษาปฐมวัยได้จัดกิจกรรมโครงการ...กายงาม ใจดี ศรีปฐมวัย อาจารย์ผู้สอนได้ให้นักศึกษาเข้าร่วมกิจกรรมของสาขา

          องค์ความรู้ที่ได้ในวันนี้
          
          มารยาทพฤติกรรมที่แสดงออก
                 สถานที่ราชการ ต้องแต่งตัวเรียบร้อย สถานศึกษาต้องใส่กางเกงยีนขายาวเท่านั้น เสื้อไม่โป๊ไม่โชว์ไหล่ สถานที่ท่องเที่ยวพุทธธรรมศาสนาต้องใส่กระโปรงคลุมเข่าเท่านั้น เช่น วัดพระแก้วจะไม่ให้ผู้หญิงที่ใส่กางเกงเข้าต้องใส่กระโปรงหรือผ้าถุงเท่านั้น

          ประโยชน์ของมารยาท
                 1. มีเสน่ห์
                 2. ประโยชน์ต่อส่วนร่วม
                 3. สังคมมีความสุข
                 4. ส่งเสนิมให้ผู้ปฏิบัติมีสุขภาพดี

         ประเภทของมารยาท
                 1. มารยาททางกาย
                 2. มารยาททางวาจา
                 3. มารยาททางใจ
                 
                  การยืนตามลำพัง ไม่ยืนกางขา ไม่เอามือล้วงกระเป๋า ไม่แกว่งแขน
                  การยืนกับผู้อื่น ไม่จับกลุ่มขวางทาง ผู้น้อยยืนหลังผู้ใหญ่ ถ้ายืนค้ำหัวผู้ใหญ่เมื่อคราวจำเป็นต้องกล่าวขอโทษ
                  การเดินตามลำพัง หลังตรง ช่วงก้าวไม่ยาวหรือสั้นจนเกินไป ไม่เดินโยกหัว
                  การเดินร่วมกับผู้อื่น / เดินกับผู้ใหญ่ / เดินผ่านผู้ใหญ่ เดินหลังผู้ใหญ่ ไม่ควรเดินกีดขวางทางจราจร ผู้ใหญ่นั่งเราควรโค้งตัวให้ต่ำกว่าพระนักเก้าอี้
                  การนั่งตามลำพัง นั่งพับเพียบ หรือนั่งขัดสมาธิ
                  การนั่งต่อหน้าผู้ใหญ่ นั่งพื้นกระโปรงต้องคลุมเข่า
                  การนั่งในสาธารณะชน การจาม การหาว การไอ ควรมีผ้าผืนเล็กปิดปาก
                  การนอนตามลำพัง การเอนเบาะต้องดูความเหมาะสม
                  การนอนกับผู้อื่น ให้ผู้ใหญ่นอนก่อน ถ้าง่วงจริงๆ ก็ขออนุญาติผู้ใหญ่ก่อนแล้วค่อยเข้านอน

         มารยาทการแต่งกาย
                 1. สะอาด
                 2. ความสุขภาพเรียบร้อย
                 3. ถูกต้องตามกาลเทศะ

         มารยาททางวาจา
                 1. ไม่พูดรุนแรง
                 2. ไม่สอดสวนวาจา

         มารยาทการสนทนา
                 1. สุภาพอ่อนน้อม
                 2. ไม่โอ้อวดไม่ปล่อยใจให้ฟุ่งซ้าน
                 3. ไม่ควรพูดจาไม่สุภาพต่อหน้าสาธารณะชน

         ** คำคม **
               หว่านเม็ดข้าว ได้กินข้าว
               เลี้ยงปลา ได้กินปลา